เขียนโดย Admin |

สาเหตุและป้ญหาการนอนกรน Snoring

สาเหตุและวิธีแก้ปัญหานอนกรน


โดยปกติแล้วทุกคนมีสิทธิ์นอนกรนได้ ไม่เว้นแม้กระทั้งเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยงก็อาจจะนอนกรนได้ แต่การนอนกรนมีผลต่อทั้งปริมาณและคุณภาพในการนอนหลับของเรา การนอนหลับไม่สนิทอาจทำให้เกิดความเมื่อยล้าในช่วงกลางวัน และอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ และที่สำคัญ ถ้าการกรนของคุณมีเสียงดังมากจนทำให้คนที่นอนข้างๆ ไม่สามารถนอนหลับได้ คุณก็อาจจะถูกตะเพิดให้ออกไปจากห้องนอนได้ ซึ่งการแยกห้องกันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาการนอนกรนที่ถูกต้อง
การนอนกรนสามารถรักษาได้หลายวิธี การค้นหาสาเหตุของอาการนอนกรนของคุณนอกจากจะช่วยให้ค้นพบวิธีรักษาที่ถูกต้องแล้วยังช่วยพัฒนาสุขภาพของคุณรวมไปถึงความสัมพันธ์กับคู่นอนและการนอนหลับของคุณด้วย
วิธีแก้ปัญหานอนกรน
การแก้ปัญหาโรคนอนกรน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีผลต่อการนอนหลับพักผ่อนของคุณและเพื่อนร่วมเตียง จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นหากรู้สาเหตุที่แท้จริง การวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องสามารถช่วยในการเลือกวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม คุณสามารถทดลองแก้ปัญหาด้วยวิธีง่ายๆ ด้วยตัวเองก่อนเพื่อดูว่าสามารถป้องกันหรือลดอาการนอนกรนได้หรือไม่ โดยการปฏิบัติดังต่อไปนี้:
- นอนตะแคง
- ยกหัวเตียงให้สูงขึ้น
- งดเว้นการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และยาบางชนิด
- ทำความสะอาดหลอดลม
- ลดน้ำหนัก
ถ้าการทดลองทำตามวิธีการข้างบนไม่สามารถแก้อาการนอนกรนของคุณได้ ปัญหาดังกล่าวอาจเกิดจากสาเหตุที่ซับซ้อน รวมถึงการแก้ปัญหาที่ต้องใช้วิธีที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ซึ่งไม่ต้องเป็นกังวลเพราะยังมีวิธีรักษาอีกหลายวิธี โดยเฉพาะถ้าคุณสามารถค้นพบสาเหตุการนอนกรนของคุณได้ จะช่วยให้คุณสามารถเลือกวิธีรักษาได้เหมาะสมยิ่งขึ้น
สาเหตุของการนอนกรน
ส่วนใหญ่ผู้ที่นอนกรนเป็นประจำมักจะมีเนื้อเยื่อในลำคอมากกว่าปกติ ซึ่งทำให้เกิดการสั่นสะเทือนและเสียงดังมากกว่าปกติในขณะหายใจ รวมถึงตำแหน่งของลิ้นที่อาจจะขัดขวางทางเดินของอากาศในขณะหายใจ การตรวจสอบดูว่าคุณนอนกรนอย่างไรและเมื่อไหร่จะช่วยให้เข้าใจว่าคุณสามารถที่ควบคุมการนอนกรนของคุณได้ด้วยตัวคุณเองหรือไม่ได้ดียิ่งขึ้น การให้เพื่อนร่วมเตียงบันทึกอาการนอนกรนประจำวันของคุณจะช่วยให้ตัดสินใจใช้วิธีในการรักษาที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เคล็ดลับ: การบอกอาการนอนกรนของคุณอาจนำไปสู่วิธีแก้ปัญหาได้
ลักษณะการนอนกรนของคุณ:
- นอนกรนขณะปิดปาก: ตำแหน่งของลิ้นอาจเป็นสาเหตุที่สำคัญ
- นอนกรนขณะเปิดปาก: คุณอาจมีเนื้อเยื่อในลำคอมากเกินไป
- นอนหงาย: อาการนอนกรนอ่อนๆ อาจแก้ไขด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมในการเข้านอนหรือแม้กระทั่งไลฟ์สไตล์
- นอนกรนในทุกท่า: อาการนอนกรนของคุณอาจเกิดจากปัญหาที่ซับซ้อนและการรักษาต้องใช้วิธีที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
สาเหตุและความเสี่ยงจากโรคนอนกรน
สาเหตุที่ไม่สามารถควบคุมได้
- พันธุกรรม – เช่น หลอดลมแคบ, ปากแหว่ง หรือสาเหตุผิดปกติทางร่างกายจากสาเหตุทางพันธุกรรมอื่นๆ
- เข้าสู่วัยกลางคน – อายุที่เพิ่มขึ้นจะทำให้หลอดลมแคบขึ้นและกล้ามเนื้อในการเปล่งเสียงลดลง
- ผู้ชาย – ผู้ชายมีหลอดลมแคบกว่าผู้หญิง ซึ่งมีโอกาสที่จะนอนกรนมากกว่า
- อาการแพ้ต่างๆ เป็นหวัด – การอุดตันในหลอดลมอาจทำให้หายใจลำบากและนอนกรน
สาเหตุที่สามารถควบคุมได้
- มีน้ำหนักมากเกินไป – การมีเนื้อเยื่อไขมันมากเกินไปและเนื้อเยื่อในการเปล่งเสียงน้อยเกินไปอาจทำให้เกิดการนอนกรนได้
- การสูบบุหรี่ – การสูบบุหรี่ (หรือได้รับควันบุหรี่จากคนใกล้ชิด) ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและอุดตันทางเดินลมหายใจ
- เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และ ยาบางชนิด – แอลกอฮอล์และยาบางชนิดทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและนำไปสู่การนอนกรน
- ท่านอน – การนอนหงายแบนราบบนที่นอนทำให้กล้ามเนื้อในหลอดลมผ่อนคลายและขัดขวางทางเดินอากาศในหลอดลม
การนอนกรนและปัญหาความสัมพันธ์
การนอนกรนนอกจากจะทำให้นอนเพื่อนร่วมเตียงนอนไม่หลับแล้วยังอาจจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาอีกด้วย รวมไปถึงการที่มีสามีภรรยาอาจแยกห้องกันนอนเพื่อให้ได้พักผ่อนเต็มที่ การรักษาอาการนอนอ่อนๆ จึงสามารถช่วยพัฒนาคุณภาพคุณภาพชีวิตของทั้งคุณและคนที่คุณรักได้
สามีหรือภรรยาของผู้ที่นอนกรมหนักๆ อาจนอนไม่หลับหลายชั่วโมงในแต่ละคืน ซึ่งการผักผ่อนไม่เต็มที่ทำให้เกิดความเมื่อยล้าที่อาจมีผลต่อการเข้าร่วมกิจกรรมสังคมหรือปัญหาสุขภาพและความสัมพันธ์
คู่นอนที่แยกห้องกันนอนทำให้ไม่มีโอกาสได้คุยกันก่อนนอนรวมถึงกายสัมผัสและอาจทำให้ความสัมพันธ์ตรึงเครียดได้
ผลเสียต่อสุขภาพที่เกิดจากการนอนกรน
ปัญหาสุขภาพของผู้ที่มีคู่นอนที่นอนกรนโดยส่วนใหญ่จะเกิดจากการนอนไม่หลับ ซึ่งทำให้เกิดความเมื่อยล้าและอาการตื่นตัวของระบบประสาท ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
ผู้ที่นอนกรนเป็นประจำหรือมีอายุอยู่ในช่วงวัยกลางคนที่เกิดจากการอุดตันในหลอดลม อาจต้องตื่นนอนหลายครั้งในแต่ละคืนเพื่อให้หายใจได้สะดวกขึ้น อย่างไรก็ตาม การนอนกรนไม่ได้เป็นสาเหตุของการหยุดหายใจฉับพลัน
การรักษาทางการแพทย์สำหรับโรคนอนกรน
ถ้าหากว่าการควบคุมการนอนกรนของคุณไม่ได้ผล ควรไปพบนาสิกแพทย์เพื่อรับการบำบัดที่ถูกต้อง ซึ่งอาจต้องใช้เครื่องมือในการบำบัดดังต่อไปนี้
เครื่องช่วยหายใจ
เป็นเครื่องมือช่วยให้อากาศผ่านเข้าออกได้อย่างสะดวกในขณะนอนหลับ โดยการอัดอากาศเข้าไปในหน้ากากที่คุณสวมขณะนอนหลับ
เครื่องมือทันตแพทย์สำหรับถ่างขากรรไกร
เป็นเครื่องมือทางการแพทย์คล้ายกับการ์ดป้องกันคางสวมใส่โดยนักกีฬาในขณะแข่งขัน ซึ่งสามารถช่วยให้อากาศไหลผ่านได้อย่างสะดวกโดยการถ่างขากรรไกรออกหรือเปลี่ยนตำแหน่งของลิ้นในขณะนอนหลับ
เครื่องมือชนิดนี้ควรจะมีขนาดพอดีกับปากของคุณ และส่วนอื่นๆ ที่เข้ากับสรีระศีรษะและคางของคุณ ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนาสิกสามารถช่วยปรับแต่งเครื่องมือชนิดนี้ให้พอดีกับสรีระของคุณได้
การผ่าตัด
เป็นการการผ่าตัดขยายขนาดหลอดลมโดยนำเอาเนื้อเยื่อส่วนที่เกินออก ด้วยเลเซอร์ ไมโครเวฟ หรือวิธีอื่นๆ เช่น อาจจะเป็นการผ่าตัดต่อมทอลซิล หรือเนื้อเยื่อที่ด้านหลังของคอหรือข้างในโพรงจมูก หรือการปรับแต่งขากรรไกรใหม่
การผ่าตัดด้วยวิธีการใหม่ๆ ที่ได้ผล เช่น การฝังพลาสติกขนาดสั้นกว่า 1 นิ้ว เข้าไปในเพดานปากด้วยเครื่องมือพิเศษคล้ายไซริง ซึ่งอาจมีความเจ็บปวดและผลข้างเคียงเล็กน้อย วิธีดังกล่าวจะช่วยให้เนื้อเยื่อที่เกิดจากการผ่าตัดช่วยลดการสั่นสะเทือนที่ทำให้เกิดการนอนกรนได้ ข้อเสียของการรักษาด้วยวิธีนี้คือมีค่าใช้จ่ายสูงและประกันสุขภาพไม่ครอบคลุมถึงการผ่าตัดรักษาอาการนอนกรน
เคล็ดลับการรักษาการนอนกรนด้วยตัวเอง
ลดน้ำหนัก: การลดน้ำหนักได้ผลดีสำหรับผู้ที่มีอาการนอนกรนอ่อนๆ การลดน้ำหนักเพียงเล็กน้อยช่วยลดเนื้อเยื่อบริเวณด้านหลังของลำคอและอาการนอนกรนได้
- นอนตะแคง: ถ้าคุณนอนหงายและมีการกรนเบาๆ การนอนตะแคงจะเป็นการช่วยรักษาอาการนอนกรนไปในตัว
หนุนหัวให้สูงขึ้น: พยายามยกศีรษะให้สูงด้วยการปรับหัวเตียงให้สูงขึ้น เพื่อให้อากาศไหลเวียนได้อย่างสะดวก หรือดันลิ้นและคางให้ยื่นไปข้างหน้า หรือใช้หมอนที่ออกแบพิเศษที่ทำให้กล้ามเนื้อที่คอไม่ย่น
งดเว้นการดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานยา และอาหารบางอย่าง: เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาบางอย่าง เช่น ยานอนหลับ ยาแก้แพ้ ทำให้เกิดการผ่อนคลายของลิ้นและกล้ามเนื้อที่คอ ซึ่งอาจทำให้เกิดการนอนกรนได้ ผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันสูงและน้ำนมถั่วเหลืองทำให้เกิดเมือกหรือมีเสมหะในลำคอซึ่งอาจทำให้เกิดการนอนกรนได้เช่นกัน
ทำความสะอาดทางเดินหายใจ: การอุดตันของทางเดินอากาศทำให้หายใจได้ลำบากขึ้น และทำให้เกิดสุญญากาศในลำคอ ซึ่งเป็นสาเหตุของการนอนกรน การลดการอุดตันในจมูกช่วยให้สามารถหายใจได้สะดวกยิ่งขึ้นในขณะที่นอนหลับ ยาแก้แพ้ต่างๆ อาจช่วยรักษาหลายๆ โรคได้ แต่ทำให้กล้ามเนื้อที่คอมีการผ่อนคลายและเป็นสาเหตุของการนอนกรน